การเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การบริโภคอาหารในยุคดิจิทัล : Future Food ในยุคเทคโนโลยี

15 พฤศจิกายน 2567

แชร์

images-x images-email

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค “อาหารแห่งอนาคต” หรือ Future Food กำลังกลายเป็นหนึ่งในกระแสที่เปลี่ยนแปลงวิถีการบริโภคและการผลิตอาหารอย่างมาก

เทคโนโลยีได้เข้ามาช่วยพัฒนาแก้ไขปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความมั่นคงทางอาหาร เช่น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI), Internet of Things (IoT), การพิมพ์สามมิติ (3D Printing), และข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)

นวัตกรรมเทคโนโลยีและอาหารแห่งอนาคต (Future Food)

1. การพิมพ์อาหารด้วยเทคโนโลยี 3D : เทคโนโลยีการพิมพ์อาหารสามมิติ กำลังเป็นที่สนใจในอุตสาหกรรมอาหาร เนื่องจากสามารถผลิตอาหารในรูปแบบใหม่ที่มีความหลากหลายและปรับแต่งตามความต้องการของผู้บริโภคได้ การพิมพ์อาหารสามมิติยังช่วยลดของเสียจากการผลิตและสามารถใช้วัตถุดิบที่มาจากพืช โปรตีนทางเลือก หรือแม้แต่เซลล์จากการเพาะเลี้ยงเพื่อสร้างสรรค์อาหารที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืน

2. เนื้อสัตว์จากห้องปฏิบัติการ : การผลิตเนื้อสัตว์ที่เพาะเลี้ยงจากเซลล์ในห้องปฏิบัติการได้รับความสนใจมากขึ้นในยุคนี้ เนื่องจากช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตเนื้อสัตว์แบบดั้งเดิม

3. โปรตีนจากแมลง : การบริโภคโปรตีนจากแมลงกำลังเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในระดับโลก รวมถึงในประเทศไทย แมลงเป็นแหล่งโปรตีนที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน เนื่องจากใช้ทรัพยากรน้อยในการเพาะเลี้ยง นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนา
เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติและลักษณะเหมือนเนื้อสัตว์ ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้บริโภคที่มองหาวิธีการบริโภคที่ยั่งยืนมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของการบริโภคอาหาร

1. การบริโภคอาหารออนไลน์ : ผู้บริโภคหันมาสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มออนไลน์ ความสะดวกในการสั่งอาหารทางดิจิทัลช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกเมนูได้หลากหลายมากขึ้นและเข้าถึงข้อมูลโภชนาการได้ง่ายขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น บางแพลตฟอร์มยังใช้ AI เพื่อแนะนำเมนูอาหารตามพฤติกรรมการบริโภคและความชอบส่วนบุคคล

2. อาหารพร้อมรับประทาน : การเติบโตของกลุ่มอาหารพร้อมรับประทานที่จัดส่งถึงบ้านได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีดิจิทัล ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้ออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง หรืออาหารที่ตรงกับความต้องการเฉพาะด้าน เช่น อาหารคลีน อาหารมังสวิรัติ หรืออาหารที่ปราศจากกลูเตน โดยสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของวัตถุดิบได้ผ่านแอปพลิเคชันที่จัดทำข้อมูลอย่างละเอียด

3. การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และ IoT ในการผลิตอาหาร : IoT และ Big Data ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการเกษตรและการผลิตอาหารในปัจจุบัน การใช้เซ็นเซอร์ในการตรวจสอบสภาพดิน น้ำ อากาศ และการเติบโตของพืชช่วยให้เกษตรกรสามารถปรับปรุงผลผลิตและลดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น Big Data ยังช่วยในการวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ผู้ผลิตอาหารสามารถพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการเหล่านั้นได้ดียิ่งขึ้น

ความท้าทายและโอกาสของอาหารดิจิทัล

1. ความปลอดภัยและคุณภาพของอาหาร : แม้ว่าการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตอาหาร แต่ต้องมีการพัฒนาและรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัยของอาหารอย่างเข้มงวด เทคโนโลยีการตรวจสอบความปลอดภัยของอาหารผ่าน Blockchain กำลังเป็นที่สนใจเพื่อสร้างความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานอาหาร

2. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค : การปรับตัวของผู้บริโภคสู่การบริโภคอาหารที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี เช่น เนื้อสัตว์จากห้องปฏิบัติการ อาหารจากแมลง อาจต้องใช้เวลาเนื่องจากปัจจัยทางวัฒนธรรมและความคุ้นเคย แต่หากให้ความรู้และการเพิ่มความตระหนักถึงประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม อาจเพิ่มความนิยมของอาหารเหล่านี้อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต

3. โอกาสในการขยายตลาด : การส่งออกอาหารที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในตลาดโลก การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในอุตสาหกรรมอาหารยังเปิดโอกาสให้กับการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคอาหารในยุคดิจิทัลได้เปิดโอกาสให้กับการพัฒนาอาหารแห่งอนาคตที่ไม่เพียงแต่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต แต่ยังช่วยสร้างความยั่งยืนและใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภค

เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง จนถึงการบริโภค ทำให้อนาคตของอาหารในยุคเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยโอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะช่วยรับมือกับปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมและการบริโภคที่ยั่งยืน

แหล่งที่มาของข้อมูล :

  1. สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล : นวัตกรรมอาหารกับเทคโนโลยีดิจิทัล https://www.depa.or.th/th/article-view/Food-innovation-and-digital-technology
  2. รายงานการวิจัยเทคโนโลยีอาหารโดย McKinsey & Company : Feeding the world sustainably https://www.mckinsey.com/capabilities/sustainability/our-insights/feeding-the-world-sustainably
  3. อยากกินต้องได้กิน SME ร้านอาหารปรับรับ Food Delivery https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/KSME-Food-Delivery.aspx

เรื่องที่คล้ายกัน :

Back to top