การพัฒนาเทคโนโลยีอาหารในประเทศไทย : ก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน

15 พฤศจิกายน 2567

แชร์

images-x images-email

เทคโนโลยีอาหารในประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่ตอบสนองต่อความความต้องการด้านโภชนาการของผู้บริโภคเท่านั้น ยังให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นอีกด้วย 

ประเทศไทยในฐานะครัวโลกกำลังก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนจำเป็นต้องเล็งเห็นการใช้ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพ ลดของเสีย และเพิ่มความมั่นคงด้านอาหารตามความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต

ความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีอาหาร

เทคโนโลยีอาหารไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอาหาร แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพ ความปลอดภัย คุณค่าทางโภชนาการของอาหาร และยังช่วยลดการใช้ทรัพยากร ลดปริมาณของเสีย เพิ่มผลผลิตให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการอาหารที่มีคุณภาพสูงขึ้น

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเทคโนโลยีอาหารของประเทศไทย

1. อาหารนวัตกรรม (Innovative Foods) : อาหารฟังก์ชัน และเนื้อสัตว์ทางเลือกจากพืชเป็นตัวอย่างของอาหารนวัตกรรมที่สร้างเพื่อตอบสนองต่อเทรนด์สุขภาพและความยั่งยืน เน้นการพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีทางชีวภาพ การปรับปรุงคุณค่าทางโภชนาการ และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

2. การพัฒนาโปรตีนทางเลือก : การพัฒนาโปรตีนจากแมลง โปรตีนจากพืช และอาหารหมักเพื่อใช้เป็นโปรตีนทางเลือกกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทย ช่วยลดการพึ่งพาเนื้อสัตว์ ลดการใช้ทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการผลิตอาหาร

3. การผลิตอาหารแบบยั่งยืน : การใช้เทคโนโลยีปรับปรุงกระบวนการผลิตอาหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน การรีไซเคิลของเสียจากการผลิต และการใช้วัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพเป็นบรรจุภัณฑ์ ช่วยให้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

4. การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในกระบวนการผลิตอาหาร : การใช้เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) และระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการติดตามกระบวนการผลิตอาหารแบบเรียลไทม์ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถตรวจสอบและควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ลดการเสียหายและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

ความท้าทายในการพัฒนาเทคโนโลยีอาหารในประเทศไทย

1. การพัฒนาความรู้และทักษะของบุคลากร : การพัฒนาเทคโนโลยีอาหารจำเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีทักษะสูง การฝึกอบรม และการทำวิจัยการศึกษาในมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาเฉพาะทางมีบทบาทสำคัญในการเตรียมบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรมนี้

2. การลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง : อุตสาหกรรมอาหารจำเป็นต้องลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การใช้หุ่นยนต์ในการผลิต การพัฒนาโปรตีนทางเลือกจากพืช และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิต อย่างไรก็ตามการลงทุนนี้ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านต้นทุนและความพร้อมของภาคธุรกิจในการปรับตัว

3. กฎระเบียบและมาตรฐานความปลอดภัย : การพัฒนาเทคโนโลยีอาหารยังต้องคำนึงถึงกฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แน่ใจว่าอาหารที่ผลิตขึ้นมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล

โอกาสในอนาคตของการพัฒนาเทคโนโลยีอาหารในประเทศไทย

1. การเติบโตของตลาดอาหารสุขภาพ : ความต้องการอาหารสุขภาพ เช่น อาหารฟังก์ชัน อาหารออร์แกนิก และอาหารที่ใช้โปรตีนจากพืชกำลังเติบโตในประเทศไทย การพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถผลิตอาหารเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารสุขภาพ

2. การขยายตลาดส่งออก : เทคโนโลยีอาหารที่ทันสมัยช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ประเทศไทยสามารถใช้เทคโนโลยีในการผลิตอาหารที่มีคุณภาพสูงและตรงตามมาตรฐานสากล เป็นแรงเพิ่มศักยภาพในการส่งออกอาหารไปยังตลาดต่างประเทศ

3. การสนับสนุนจากภาครัฐ : ภาครัฐต้องให้การสนับสนุนในการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารผ่านนโยบายและโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในอุตสาหกรรมอาหาร และการพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในด้านเทคโนโลยีอาหาร

การพัฒนาเทคโนโลยีอาหารในประเทศไทยกำลังเป็นแนวโน้มที่สำคัญซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมอาหาร เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยังส่งเสริมการสร้างอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

แหล่งที่มาของข้อมูล :

1. สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA): NIA ร่วมหารือแนวทางการขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต (Future Food) กับ สถาบันอาหาร (National Food Institute)
https://www.nia.or.th/National-Food-Institute

เรื่องที่คล้ายกัน :

Back to top